การทำความสะอาดแก้วค็อกเทล

แก้วค็อกเทล

วิธีการทำความสะอาดแก้วค็อกเทล
ทำได้โดยการนำแก้วแต่ละใบไปอังบนถังที่ใส่น้ำร้อนจนกระทั่งแก้วเกิดไอน้ำ จากนั้นใช้ผ้าลินินสะอาดขัดแก้วเป็นวงกลมให้สะอาดจนเกิดเงางาม

ในการใช้แก้วสำหรับใส่ค็อกเทลนั้นสามารถใช้ประเภทใดก็ได้ แต่ทางที่ดีควรจะเป็นแก้วตามประเภทของเครื่องดื่มแต่ละชนิดที่กำหนดไว้จะดีกว่า นอกจากนี้ไม่ควรที่จะใช้แก้วทีเป็นสีเพราะจะเป็นการบดบังสีของค็อกเทล อย่าลืมว่าแก้วทุกชนิดถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ไป เช่น

1.แก้วไฮบอลเหมาะสำหรับเครื่องดื่มเย็นสดชื่นในประมาณที่ค่อนข้างสูง
2.แก้วค็อกเทลใช้สำหรับเครื่องดื่มที่ค่อนข้างจะแรง
3.แก้วแชมเปญ ซอสเซอร์ใช้สำหรับเครื่องดื่มประเภทครีมซึ่งใช้ดื่มหลังอาหารเย็น เป็นต้น
ก้านแก้วถูกออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับจับ ทั้งนี้เพื่อเป็นการคงให้ส่วนที่เป็นถ้วยนั้นเงางามอยู่ตลอดเวลา ส่วนแก้วค็อกเทลทุกครั้งนั้น ควรที่จะเก็บเอาไว้ในตู้เย็นหรือใส่น้ำแข็งลงในแก้วเพื่อทำให้แก้วเย็นก่อนนำมาใช้ ส่วนการทำแก้วค็อกเทล ขนาด 90 มล ให้ดูสวยงามขึ้นนั้นทำได้ด้วยใช้น้ำเย็นราดน้ำแก้ว จากนั้นนำแก้วไปใส่ไว้ในช่องน้ำแข็ง

ส่วนผสมซอฟดริ้งค์ในค็อกเทล

ส่วนผสมซอฟดริ้งค์ในค็อกเทล
เมื่อเราทำความเข้าใจกับเหล้าชนิดต่างๆ ว่าจะใช้อย่างไร
เมื่อใด หรือตามสูตรต่างๆ ของการผสมค็อกเทลแล้ว ยังมีส่วน
ผสมอื่นๆ ที่สามารถนำมาปรุงแต่งค็อกเทลให้ได้รสเฉพาะตัว
เพิ่มมากขึ้น เป็นเครื่องดื่มที่ไม่มืแอลกอฮอล์ หรือซอฟดริ้งค์ ชนิด
ต่างๆ เช่น
- น้าส้มคั้นสดๆ หรือสำเร็จรูปก็ได้
- น้ำมะนาว ถ้าจะให้ได้คุณภาพและรสชาติที่ดี ควรใช้มะนาวคั้นสด ๆ จะดีกว่า
- น้ำสับปะรด เป็นน้ำสับปะรดสำเร็จรูป มีจำหน่ายในรูปของกระป๋อง ขวด และกล่อง UHT ควรเลือกชนิดที่มีน้ำตาล น้อย
- น้ำมะเขือเทศ เลือกใช้แบบกล่องหรือกระป๋องก็ได้ที่มีมาตรฐานการผลิตดี
- น้ำใช้อม มีสำเร็จรูปหรือจะทำเองก็ได้ เพราะต้นทุนการผลิตต่างกัน
น้ำเชื่อมเกรนาดีน หรือน้ำเชื่อมทับทิม Grenadine Syrup
- ซอฟท์ดริ้งค์ เช่น น้ำอดลม หรือเครื่องดื่มผสมที่มีจำหน่ายในร้านทั่วไป เช่น โค้ก โซดา น้ำมะนาวโซดา เซเว่นอัพ โทนิค เครื่องดื่มบำรุงกำลัง
- กาแฟ จะนิยมใช้กาแฟสดคั่วบด ชงในหม้อร้อน เป็นกาแฟดำไม่ผสมครีม
- นม เป็นนมจืด
- ครีม จะมีทั้ง Light Cream, Heavy cream วิปปิ้งครีมครีมต่างๆ เหล่านี้ เราสามารถเตรียมไว้ก่อน แช่เย็นไว้ได้ ถ้าจะใช้ก็สามารถหยิบใช้ได้เลย
- เกลีอป่น ต้องเป็นเกลือละเอียดละลายได้เร็ว
- น้ำตาล เป็นน้ำตาลสีขาวหรือสีส้มก็ได้ ต้องบดละเอียดสะอาด ละลายได้ดี และละลายได้เร็ว
- มาราสชิโน เชอรี่ น้ำเชื่อม มาราสชิโน สีแดง หรือสีเขียว ปัจจุบันมีหลายสี เช่น น้ำเงิน ฟ้า ม่วง น้ำตาล ซึ่งจะให้ค็อกเทลที่ได้มีสีที่หลากหลายเพิ่มขึ้น

ฮอป โทด (Hop Toad)ค็อกเทล

ฮอป โทด (Hop Toad)


ส่วนผสม

เหล้ารัม(Light Rum ) 2 ออนซ์

น้ำมะนาว(Lemon juice) 1/2 ออนซ์

บรั่นดี( Brandy) 1 ออนซ์

น้ำสับปะรด 1 ออนซ์



วิธีทำ

1.เตรียมเช็คเกอร์ โดยใส่น้ำแข็งลงไป 3-4 ก้อน

2.เทส่วนผสมใส่ลงใน เช็คเกอร์ จากนั้นเขย่าให้ส่วนผสมเข้ากัน

3.รินส่วนผสมใส่แก้งค็อกเทล โดยกรองน้ำแข็งออก

4.ตกแต่งแก้วด้วย เชอร์รี่แดง หรือ สับปะรด ,องุ่นแดง

5.เสิร์ฟได้ทันที

มิดไนท์ คาวบอยมิดไนท์คาวบอย

มิดไนท์ คาวบอย

ส่วนผสม

Vodka 2 ออนซ์

Dark Rum 1 ออนซ์

ครีม เดอ คาเคา 1 ออนซ์

น้ำมะนาว 1 ออนซ์

วิธีทำ

เทส่วนผสมต่างลงในเช็คเกอร์ ที่ใส่น้ำแข็งรอไว้ จากนั้น เขย่าให้เข้ากัน กรองส่วนที่เป็นน้ำแข็งออกไป แล้วรินส่วนผสมที่ได้ลงในแก้ว ตกแต่งแก้วด้วยผลไม้ เสิร์ฟได้ทันที

แก้วค็อกเทล

แก้วค็อกเทล
แก้วค็อกเทลเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำค็อกเทล และแก้วต้องเหมาะสมกับเครื่องดื่มค็อกเทลที่จะทำ เพื่อให้เพิ่มสีสันความสวยงาม เพิ่มความน่าดื่มแก้วที่ใช้ต้องมีเนื้อดี ใส ไม่มีลวดลายมาก การเลือกใช้แก้ว บ่งบอกได้ถึงรสนิยมและความรอบรู้ของผู้ผสมค็อกเทล เครื่องดื่มค็อกเทลเป็นเครื่องดื่ม ที่มีส่วนผสมตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป มีความหลากหลาย ปะปนอันให้ทั้งความรู้สึกและรสนิยมของผู้ดื่ม

ภาชนะที่ใช้จึงมีความจำเป็นที่ต้องคัดสรรเป็นพิเศษ เพื่อให้นักดื่มได้ดื่มด่ำกับรสชาติของส่วนผสมที่อยู่ในแก้ว แก้วก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยที่สร้างอรรถรสในการดื่ม เครื่องแก้วที่เป็นทรงนิยมและใช้สืบต่อกันมา ถ้าเห็นก็จะรู้จักและจำกันได้ แต่ปัจจุบันในวงการนักผสมค็อกเทลจะมีแฟชั่นของเครื่องแก้วมาใช้กันมาก รูปร่างแปลกตา แต่ก็ยังคงความสง่างาม คือเป็นทรงสูง เรียกร้องความเป็นจดเด่น นอกจากแก้วแล้วยังมีอุปกรณ์ตกแต่งที่เป็นตัวช่วยอีกมากมาย ถ้าเปรียบเทียบไปแล้วคงเหมือนกับวงการแฟชั่น ที่ต้องมีการพัฒนาและตื่นตัวอยู่เสมอ ๆไม่คงที่ เพื่อให้นักดื่มเกิดการเคลื่อนไหว ก่อนจะทดลองใช้แล้วเล่าสู่กันฟัง โดยหลักๆแล้ว

การตกแต่งแก้วค็อกเทล

การตกแต่งแก้วค็อกเทล
การตกแต่งแก้วค็อกเทลนั้นเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มชนิดนี้เลยก็ว่าได้ เพราะทำให้มีสีสันในการดื่มมากขึ้น และเป็นที่นิยมมาก การตกแต่งอาจจะใช้ผลไม้ สด ดอง อิ่ม ฯลฯ หรือวัสดุอื่นๆที่ทำให้แก้วดูสวยงามมากขึ้นอยู่กับโอกาสที่ใช้ ผลไม้ที่ใช้ ต้องรับประทานได้ เช่น ผลไม้สด ผลไม้เชื่อม ผลไม้ดอง ผลไม้แช่อิ่ม อาจจะใช้ใบผัก ที่นิยม เช่น ใบสะระแหน่ เป็นต้น การตกแต่งรูปแบบต่างๆ ต้องใช้ไม้สำหรับเสียบ ปัจจุบันจะมีอุปกรณ์ตกแต่งแก้วค็อกเทลมากขึ้น เพราะเป็นที่นิยมกันมาก ในการตกแต่งไม่ควรมากจนเกินไป จะทำให้ไม่น่าดู ที่สำคัญต้องสะอาด และผักผลไม้ที่ใช้ต้องสด รสชาติดี เพราะนักดื่มจะรับประทานผลไม้ที่ใช้ตกแต่งด้วยเหมือนเป็นออเดิร์ฟ ก่อนเมนูอาหารหรือระหว่างการดื่ม ผลไม้ที่ใช้ควรมีสีสันแตกต่างกันไป จะช่วยเพิ่มสีสันในการดื่ม การตกแต่งแก้วค็อกเทลนั้นในปัจจุบันมีความหลากหลายเพราะผู้จัดต่างก็มีทักษะและเทคนิคทึ่ไม่ซ้ำแบบกัน สำหรับการตกแต่งจะไม่ได้มีข้อห้ามใดๆ ถือว่าเป็นการเปิดฟรีสไตล์ ให้บาร์เทนเดอร์แต่ละคน สร้างสรรค์ศิลปะของแต่ละคนลงไปในแก้ว

วัตถุดิบในการผสมค็อกเทล

วัตถุดิบในการผสมค็อกเทล

การผสมเครื่องดื่มค็อกเทล นอกจากจะผสมเหล้าชนิดต่างๆแล้ว ยังมีวัตถุดิบอย่างอื่น ที่ช่วยให้ค็อกเทลมีรสชาติดีขึ้น ได้แก่

1. น้ำผลไม้ต่าง ๆ จะเป็นน้ำผลไม้ที่ได้จากการคั้นสด ๆหรือ สำเร็จรูป ก็ได้

2. ผลไม้สดต่าง ๆ เช่น สตรอเบอร์รี เชอรี ราสเบอร์รีหรือผลไม้สดอืฯๆ ทีมีคามฤดูกาล สามารถนำมาเป็นส่วนผสมของการทำค็ออเทลได้ จะทำให้มีกลิ่นหอม รสชาติดีขึ้น และเป็นทีนิยมมาก

3. น้ำผลไม้เข้มข้น Fruit squash เป็นน้ำผลไม้ที่ผ่านกรรมวิธีการสกัดและปรุงแต่งรสให้เข้มข้น เมื่อจะนำมาใช้จะต้อง รู้ว่าใช้อัตราส่วนเท่าใด ต้องรเ้จักวธอารใชท่ถูกวฉ เพราะอาจทำให้เสียรสชาติของค็อกเทลได้

4. น้ำเชื่อม syrup ได้จากการผสมน้ำกับน้ำตาลทรายสีขาวหรือสีน้ำตาลในอัตราส่วน 2 :1 หรือ 3 : 1 ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นที่ต้องการจะใช้ แต่จะต้องไม่เป็นตะกอนของน้ำตาล
การเลือกใช้น้ำตาลควรใช้ให้เหมาะกับเครื่องดื่มที่ผสม ถ้าเครื่องดื่ม สีขาวใส ควรใช้น้ำเชื่อมจากน้ำตาลขาว ถ้ามีสีควรใช้สีน้ำตาล